พิกัด : อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
ในขณะที่อ้อยล้นตลาด ขับรถสัญจรไปมาเห็นแต่ไร่อ้อยที่ยังไม่ตัด ทั้งๆที่ขนาดลำอ้อยควรจะตัดส่งโรงงานได้แล้ว และบางพื้นที่ต้นอ้อยกำลังออกดอกสวยงาม แต่ไม่สามารถนำไปขายโรงงานหีบอ้อยได้ เพราะไม่มีคนรับ บางพื้นที่ก็ปลูกไม่พอที่จะใส่อ้อยเต็มคันรถเพื่อไปส่งโรงงานให้คุ้มค่าขนส่ง จะส่งลานอ้อยลานอ้อยก็ทะยอยไม่รับเข้าลาน เพราะโรงงานใกล้ปิดหีบแล้ว ในขณะที่จังหวัดหนองคาย ไม่มีโรงงานที่รับอ้อยไปแปรรูปมากนัก เกษตรกรชาวไร่อ้อยจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าแปรรูป นำไปทำอาหาร เช่น ปลาต้มเค็ม หมูสามรส กุ้งพันอ้อย เนื้อย่างราดซอสอ้อย หมูสามชั้นอบชานอ้อย แต่วัตถุดิบที่มีมากมายหลายสิบหลายร้อยไร่ ยังเหลืออ้อยเป็นจำนวนมาก ทางวิสาหกิจชุมชนฮักจังโนนศิลา ได้เล็งเห็นปัญหาสำคัญ ที่ทำให้ชาวไร่อ้อยยิ้มได้ จึงได้ซื้ออ้อยจากเกษตกร มาคั้นน้ำทดลองผลิตสุรา ในขณะที่ทดสอบ ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้รู้สึกตื่นเต้นและดีใจล่วงหน้า ที่จะได้เห็นวิธีการผลิตสุราที่มาจากอ้อย เพราะในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ส่วนมากโรงงานสุราในจังหวัดหนองคายจะผลิตสุราจากข้าวเหนียว ทั้งๆที่มีโรงงานสุราหลายโรงผลิตสุราจากอ้อยได้ แต่ในความเป็นจริง มีเพียงบางโรงงานเท่านั้นที่สามารถผลิตสุราจากอ้อยแท้ๆได้จริงโดยไม่ได้เสริมกลิ่นปรุงแต่ง ทำให้สุราที่มาจากอ้อยแท้ๆได้สุราที่ แปลกใหม่ แตกต่าง มีเสน่ห์ น่าหลงใหล จึงทดสอบในรูปแบบอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และขอใบอนุญาติผลิตสุราไห้ถูกต้องไปในขณะเดียวกัน กลางปี2566ฤดูกาลปลูกอ้อยก็มาถึง วิสาหกิจชุมชนฮักจังโนนศิลา ไม่สามารถหาลำอ้อยมาคั้นน้ำเพื่อนำไปผลิตสุราได้ในขณะนั้น จึงมีความคิดใช้ โมลลาสแทนการใช้อ้อย เพื่อใช้ในการผลิตสุรา กรรมวิธีในการหมักกลั่นที่ยากกว่าการหมักกลั่นด้วยน้ำอ้อยแท้ๆ ทั้งใช้เวลาในกระบวนการผลิตนานกว่า หมักนานกว่าและยากกว่า กลั่นยากกว่า แต่ วิสาหกิจชุมชนฮักจังโนนศิลา ได้เล็งเห็นความสำคัญของนิเวศวิทยาแบบยั่งยืน ซึ่งโมลลาส ถือว่าเป็นผลพลอยได้ในการผลิตน้ำตาล และน้ำส่าสุราที่ผ่านการผลิตสุราแล้ว เป็นปุ๋ยและอาหารสัตว์ชั้นดี ยังคงเหลือแร่ธาตุต่างๆมากมายและมีกลิ่นเหมือนข้าวผสมมันสำปะหลัง ใช้ในการผสมอาหารเลี้ยงเป็ด ไก่ โค กระบือ สุกร และใช้เป็นส่วนผสมหมักปุ๋ยได้ทั้งสิ้น
ปัจจุบันวิสาหกิจชุมชนฮักจังโนนศิลา เดิมทีมีบ่อเลี้ยงปลาเป็นจำนวนมาก จึงได้นำน้ำส่าสุราที่เหลือจากการผลิต มาใช้เลี้ยงไข่ผำ หรือไข่น้ำ พืชดอกที่เล็กที่สุดในโลก ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารสูง ถือว่าเป็นอาหารแห่งอนาคตและได้มีการพัฒนาสุราผลไม้ เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรกรที่ขายผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น กล้วย มะม่วง ทุเรียน พ่อค้าแม่ค้าที่ขายผลไม้ต่างๆ มีปัญหาผลไม้เน่าเสียหลังจากการขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ผลไม้หน้าร้านค้าแพงกว่าผลไม้จากสวนหลายเท่า การผลิตสุราจากผลไม้สุกงอมที่พ่อค้าแม่ค้าขายผลไม้ได้ไม่หมด กลับเป็นผลดีในการผลิตสุรา สุราที่ผลิตจากผลไม้สุกงอมจะมีกลิ่นที่หอมมากกว่าปรกติ ทำไห้นึกถึงผลไม้ชนิดนั้นๆได้ชัดเจน และยังสามารถรับซื้อผลไม้เพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่ขายผลไม้ได้ และเป็นการช่วยพยุงราคาสินค้าเกษตรได้อีกช่องทางหนึ่ง แม้กระทั่งสุราเห็ด การผลิตสุราต้องใช้เอนไซม์และยีสในการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล และน้ำตาลเป็นแอลกอฮอลล์ ซึ่ง ยีส เห็ด และรา จัดเป็นจุลินทรีย์ที่มีการดำรงชีวิตไกล้เคียงกันในทางชีวะวิทยา ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนฮักจังโนนศิลา ได้ใช้เห็ดจากฟาร์มในชุมชนไกล้เคียง เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดขอน เห็ดหอม แม้กระทั่งเห็ดป่าเช่น เห็ดระโงก เห็ดปลวก เห็ดข่า และยีสเฉพาะทางชีวะวิทยาในการผลิตสุรา เพื่อเพิ่มความแตกต่าง น่าดึงดูด น่าหลงใหล ลงไปในการหมักสุราก่อนกลั่นอีกด้วย โดยเฉพาะเห็ดปลวก เห็ดไค เห็ดข่าและเห็ดระโงก ทำไห้สุรานั้นแปลกใหม่เกิดรสสัมผัสที่ไม่เคยพบได้ในอาหารหรือเครื่องดื่มทั่วไป รวมถึง สุรารำข้าว สุราชาไทย ที่มีกลิ่นหอมไม่เหมือนสุราชนิดอื่นในตลาด เพื่อวางแผนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ทั้งนี้การผลิตสุรา ยังต้องนึกถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค ก่อนที่จะใช้วัถุดิบชนิดต่างๆมาลองผลิต มีความเข้าใจเบื้องต้นว่า ธรรมชาติคือสิ่งสมดุล ถ้าวัตถุดิบ อร่อย หอม หวาน จะสร้างสารต่อต้านแมลง เช่น พืชบางชนิดจะสร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์และมีพิษเพื่อไล่แมลง หรือพืชบางชนิดจะสร้างสารพิษรุนแรงที่มีผลต่อสัตว์ เพื่อป้องกันสัตว์และแมลงกัดกินส่วนต่างๆของพืช แม้กระทั่งการหมักสุราด้วยวัตถุดิบบางชนิดจะทำไห้เกิดแอลกอฮอล์ชนิดที่เป็นพิษรุนแรงต่อร่างกายได้
วิสาหกิจชุมชนฮักจังโนนศิลา ได้มีการส่งตรวจตัวอย่างสุราและรับรองการผลิตเพื่อความปลอดภัย ทำไห้ผู้บริโภคมั่นใจในทุกครั้งที่เปิดขวด… ป๊อก… จ้วดดด
ข้อมูลเพิ่มเติม : Rumbellion~* คุณ ปรัศนีย์ พรมสอน 095-240-4569